การเขียนพู่กันจีน

ใครที่เคยดูหนังจีน โดยเฉพาะหนังจีนโบราณ คุณจะได้เห็นตัวอักษรจีนโบราณที่ตัวละครเขียนโดยใช้พู่กัน และหลายคนที่ได้มีโอกาสคลุกคลีกับภาษาจีน เชื่อเถอะว่า คุณคงได้เขียนพู่กันจีนกันบ้าง หรือสำหรับใครที่ชื่นชอบตัวหนังสือจีนที่เขียนโดยพู่กันจีน วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับพู่กันจีน

            สำหรับการเขียนพู่กันจีนนั้นมีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ 5,000 ปีมาแล้วในตอนแรกก็ทำเป็นอักษรภาพจนสุดท้ายทำมาเป็นตัวอักษร  โดยตัวอักษรจีนในตอนแรกก็แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นของจีน วิธีแกะสลักหรือจารลงบนกระดองเต่า หรือกระดูกสัตว์โดยใช้มีดแกะสลักและจนถึงในสมัยฮ่องเต้ได้รวบรวมแผ่นดินจีนเข้าไว้ด้วยกัน และมีการปฏิรูปตัวอักษรครั้งใหญ่ด้วยการสร้างมาตรฐานรูปแบบตัวอักษรให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ และที่สำคัญพู่กันจีน คือ ศิลปะชั้นสูง 1 ใน 4 ของจีน โดยมีเรื่องของการเขียนพู่กัน การวาดภาพ และยังมีการบรรเลงเครื่องสายและเล่นหมากรุกจีน ศิลปะการเขียนพู่กันจีนเป็นการสร้างลายเส้นและเค้าโครงที่เรียบง่าย แต่ทำให้เห็นถึงรากเหง้าของวัฒนธรรมและความคิดอันซับซ้อนและหลากหลายของผู้เขียน และถ้าอยากเขียนสวยต้องฝึกบ่อยๆ โดยเทคนิคการจับพู่กันจีนแบบดั้งเดิม คือต้องวางนิ้วหัวแม่มือตรงด้านซ้ายของพู่กันส่วนนิ้วชี้และนิ้วกลางวางไว้ตรงด้านขวา ส่วนนิ้วนางและนิ้วก้อยอยู่ด้านล่างเพื่อช่วยประคองพู่กัน ที่สำคัญพยายามวางตำแหน่งนิ้วให้อยู่ตรงช่วงกลางด้าม เพื่อให้พู่กันอยู่ในแนวตั้งกับกระดาษ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเขียนพู่กันจีน ประกอบด้วย 4 อย่างเรียกว่า ปี่ม่อจื่อเยี่ยน ปีหมายถึงพู่กัน ม่อหมายถึงหมึกสีดำ จื่อหมายถึงกระดาษ

สำหรับกระดาษที่ใช้ในการเขียนพู่กันจีนไม่ใช่กระดาษทั่วไปที่ใช้กันแต่ต้องมีคุณสมบัติกันน้ำเพื่อไม่ให้หมึกซึมส่วน เยี่ยนคือที่ฝนหมึกวิธีการฝนหมึก คือหยดน้ำเปล่าใส่ลงในถาดฝนหมึก และใช้แท่งหมึกฝนจนมีความเข้มข้นเป็นน้ำหมึก

ทั้งหมดนี้คือการเขียนพู่กันแบบจีนที่ทำให้คุณนั้นชื่นชอบในการเขียนอักษรจีนมากยิ่งขึ้น โดยถ้าคุณอยากเขียนให้ถูกต้อง ก็ต้องไปเรียนด้วยตนเองตามสถาบันต่างๆที่เปิดสอนภาษาจีนด้วย เพื่อให้ก้าวทันสู่โลกอาเซียนมากกว่า อย่างไรก็ตามการเรียนภาษาจีนต้องอดทนกว่าที่จะได้ทั้งหมด เพราะว่าเขียนยากตัวอักษรก็เยอะมาก และยังต้องเขียนตามลายเส้นให้ถูกต้องด้วย เพราะถ้าคนที่เชี่ยวชาญดู เขาจะบอกได้เลยว่าคุณเขียนเส้นผิดหรือถูก เพราะการเรียนภาษาที่สามก็ต้องใช้หลายทักษะในการเรียนด้วย คุณก็อย่าถอดใจไปซะก่อนแล้วกัน