คำว่าศิลปะเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างมากสำหรับมนุษย์ ศิลปะบางแขนงดูแล้วเข้าใจในทันที่แต่บางอย่างก็เข้าใจยากมาก แล้วแต่ว่า คนแต่ละคนจะมองกันมุมไหน ในบางครั้งรูปเดียวกันคนสองคนยังมองต่างกันและรู้สึกต่างกันด้วย เพราะฉะนั้นศิลปะจึงไม่มีอะไรที่ตายตัว โดยเฉพาะศิลปะแบบ แอบสแตกอาร์ต หรือ ศิลปะแบบนามธรรม
ศิลปะนามธรรม คือ ศิลปะที่เกี่ยวกับจิตใจ และแสดงความรู้สึกของมนุษย์ในเรื่องของธรรมชาติแวดล้อและมีการถ่ายทอดเป็นรูปภาพ มีลักษณะเป็นสองมิติ หรือ สามมิติก็ได้ ส่วนใหญ่จะไม่วาดตรงๆแต่จะผู้ดูได้จินตนาการเอาเอง ซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์ของภาพเขียนแนวนี้ โดยผู้ริเริ่มคือ วาสสิลี่ แคนดินสกี้ ชาวรัสเซีย
ภาพแบบ Abstract นั้นจะให้ความสำคัญกับความรู้สึกอยู่ที่ สี และการจัดรูปทรง และคำนึงถึงหลัก 2 ประการ คือ ความรู้สึกภายนอกและความรู้สึกภายใน โดยความรู้สึกภายนอก คือ วัสดุรูปทรง และเมื่อดูแล้วจะเกิดความรู้สึกภายในขึ้นมา เป็นคุณค่าของรูปภาพนั่นเอง
คุณค่าของความรู้สึกถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของศิลปะแบบแอบสแตรก ศิลปินกลุ่มแอบสแตกไม่ต้องการสร้างรูปทรงที่ปรากฎให้ผู้ดูหลงติดเพียงแค่นั้น แต่ต้องการสร้างรูปทรงใหม่ โดยคำนึงถึงการจัดภาพ ลีลา จังหวะความสมดุล และความรู้สึก เพื่อให้เกิดอารมณ์และความรู้สึกเองเมื่อได้สัมผัสสิ่งที่ไม่อาจชี้เฉพาะไปได้ว่าเป็นอะไรนั่นเอง เพราะฉะนั้นต้องบอกเลยว่านี่คือภาพแบบนามธรรมที่จะให้อารมณ์ความรู้สึกที่ล้ำลึกมากกว่าที่คิดด้วย ภาพนามธรรมจึงได้รับความนิยมอย่างมากจากคนที่ชื่นชอบงานศิลปะที่ไม่เหมือนใคร ก็น่าจะชอบรูปภาพแนวนี้
ศิลปะแบบนามธรรมเน้นที่ความสวยงามด้านจิตใจมากกว่าแบบอื่น ช่วยสร้างจินตนาการให้กับคนที่มองดูได้ การที่มองภาพได้แตกต่างกัน อาจเกิดจากความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ที่ผ่านมาของคนดู ในบางครั้งถ้าภาพมองยาก อาจยากที่จะสื่อความออกมาได้ ถ้าแบบนี้อาจต้องใช้พื้นฐานทางศิลปะกันหน่อย เพราะคนที่มีพื้นฐานและความละเอียดในด้านนี้จะดูออกแน่นอน ในเรื่องของลายเส้นหรือแบบอื่นๆ ทำให้คุณได้อรรถรสจากการดูรูปแอบสแตรกมากยิ่งขึ้น และอาจทำให้คุณเปลี่ยนมุมมองชีวิตของตัวเองได้เลย
คุณสามารถหาชมภาพนามธรรมจากศิลปินชื่อดังได้ตามพิพิธภัณฑ์ทั่วไป และสามารถซื้อหาได้ด้วย แต่ว่าต้องหาซื้อจากแหล่งที่ขายภาพจริง และที่สำคัญต้องดูที่ราคาด้วย ราคาจะถูกหรือแพงก็ต้องดูที่ใครเป็นคนวาด และลายเส้นที่วาดเป็นอย่างไร วาดง่ายหรือยากใช้เวลาใช้ในการวาดนานแค่ไหน เพราะทั้งหมดนี้จะเป็นตัวกำหนดราคาว่าจะถูกหรือแพงนั่นเอง